การทำปากกระจับเป็นเรื่องของการผ่าตัดที่ต้องคิดให้มาก ศึกษาข้อมูลให้ดี และเลือกคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เพราะการทำศัลยกรรมปากเป็นการตัดแต่งเนื้อปากให้ได้รูปทรงที่ดูสวยงาม ได้รูปทรงที่เราต้องการ แต่หากทำพลาดขึ้นมา หรือหมอที่ทำให้ไม่มีความเชี่ยวชาญก็ค่อนข้างที่จะแก้ไขได้ยากเพราะเนื้อที่ตัดออกไปแล้วจะให้กลับมาเต็มดังเดิมเหมือนก่อนทำคงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นคุณหมอจึงอยากให้ศึกษาข้อมูลเรื่องนี้จากหลากหลายแหล่งจนมั่นใจว่า คลินิกที่เราเลือกปลอดภัยและได้มาตรฐาน
ตรวจสอบรายชื่อแพทย์ก่อนศัลยกรรม
สามารถทำได้ง่ายๆเข้าเวปไซด์ http://www.tmc.or.th/check_md จากนั้นใส่ชื่อแพทย์ที่ทำการรักษา หรือ เลขที่ใบประกอบวิชาชีพ กดค้นหา #แพทย์ที่จะทำการศัลยกรรมควรเป็นแพทย์ที่ชำนาญเฉพาะทางในสาขา#ศัลยศาสตร์ตกแต่ง เท่านั้น หรืออีกเว็บไซต์สำหรับศัลยแพทย์โดยตรง เข้าเวปไซต์ทางการของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย สมาคมวิชาชีพที่แท้จริงของงานด้านศัลยกรรมตกแต่ง http://www.plasticsurgery.or.th/
หรือ http://www.surgery.or.th/ จากนั้นใส่ชื่อแพทย์ที่ทำการรักษา หรือกดค้นหารายชื่อแพทย์ตามตัวอักษรได้เลยค่ะ
รูปทรงปากที่คนส่วนใหญ่นิยมทำ
1. ปากกระจับแบบธรรมดา ส่วนใหญ่ก็จะเหมาะกับคนไข้ที่มีภาวะปากหนา ไม่ได้รูปทรง
2. ปากปีกนก เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีรูปปากค่อนข้างบางเป็นทรงอยู่แล้ว แต่ต้องการความสวยงามมากขึ้น ปรับปากให้ดูเซ็กซี่มากขึ้น
ปากที่ไม่แนะนำให้ทำศัลยกรรมปาก
1. ผู้ที่มีปัญหาด้านโครงสร้างฟัน เช่น ฟันห่าง ฟันยื่น ฟันไม่สบกับสนิท หรือภาวะฟันล่างครอบฟันบน ซึ่งหมอแนะนำให้พบทันตแพทย์เพื่อประเมินก่อน
2. กรณีคนที่จัดฟันอยู่ หากฟันยังไม่เข้าที่ ฟันห่างหรือโครงฟันยังยื่นอยู่ หมอจะยังไม่ทำศัลยกรรมปากให้จนกว่าฟันจะเข้าที่ โดยหากฟันเข้าแล้วในขณะใส่เหล็กดัดหรือ Retainer ก็สามารถทำได้
3. ผู้ที่มีปัญหายิ้มเห็นเหงือกมาก หมายถึงยิ้มในท่าปกติริมฝีปากก็ร่นขึ้นเหนือขอบฟันมาก ซึ่งกรณีเช่นนี้หมอจะแนะนำให้พบและปรึกษาแพทย์ด้านทันตกรรมยิ้มเห็นเหงือก ซึ่งหมอแนะนำแก้ปัญหายิ้มเหงือกก่อนให้เสร็จเรียบร้อยประมาณ 1-2 เดือน จึงค่อยมาผ่าตัดริมฝีปาก
4. ผู้ที่มีริมฝีปากบางมาก เพราะวิธีการทำปากให้เป็นรูปทรง คุณหมอต้องตัดเนื้อริมฝีปากออกบางส่วน แล้วเย็บตกแต่ง ซึ่งหากริมฝีปากบางมากแล้วก็ไม่สามารถทำให้เป็นรูปทรงได้
5. ผู้ที่มีริมฝีปากคว่ำมากหรือมุมปากตกมาก จนไม่สามารถแก้ไขได้โดยการผ่าตัดหรือตกแต่ง
6. ผู้ที่มีริมฝีปาก 2 ข้าง ไม่สมมาตรกันเมื่อวัดจากจุดกึ่งกลางปาก หรือในผู้ที่มีปัญหายิ้มไม่เท่ากัน 2 ข้าง ซึ่งอาจทำให้รูปทรงผิดรูปไปได้
7. ผู้ที่มีปัญหาแผลเป็นนูนหรือคีรอยด์
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดศัลยกรรมปาก
1.งดยาแก้ปวดกลุ่ม Aspirin 7 - 10 วันก่อนผ่าตัด
2.สมุนไพรบางชนิด เช่น อีฟนิ่งพริมโรส ยาวิตามินอีปริมาณสูง ๆ อาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรสกระเทียม หัวหอม ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้เลือดออกมากผิดปกติหรือมีปัญหาระหว่างผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพราะอาจต้องหยุดรับประทานสมุนไพรก่อนเข้ารับการผ่าตัดประมาณ 3 - 5 วัน
3.เตรียมหยุดงานประมาณ 2-3 วัน
4.ทานอาหารให้อิ่มก่อนผ่าตัด
5.ควรแปรงฟันก่อนมาผ่าตัด เนื่องจากหลังผ่าตัดอาจปวดแผล ทำให้แปรงฟันไม่สะดวก
6.ควรพาเพื่อนมาด้วยในวันผ่าตัด
7.ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัวของคุณ เช่น เบาหวาน,โรคหัวใจ และยาที่แพ้ เช่น เพนนิซิลิน,ซัลฟา ฯลฯ
การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดศัลยกรรมปาก
งดอาหารแสลง
หลังการผ่าตัดศัลยกรรมปากนั้น หลายท่านอาจเป็นกังวนเรื่องการดูแลรักษาแผล หนึ่งในนั้นคือการงดทานของแสลง แล้วของแสลงที่ว่ามีอะไรบ้าง
การรักษารอยแผลให้หายไว คือ การกินอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนให้เพียงพอ ต่อร่างกายดื่มน้ำเยอะๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำความสะอาดแผลหลังทานอาหารเสร็จทุกครั้งค่ะ และต้องไม่ลืมที่จะทำตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด เพียงเท่านี้ร่างกายก็จะสามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้โดยเร็ว
อุปกรณ์และสิ่งของที่ต้องมี เพื่อใช้ดูแลรักษาหลังการผ่าตัด
1.ยาทาและยากิน คุณหมอจะให้มาหลังการผ่าตัด และหลังการตัดไหม
2.เจ็ลประคบร้อน-เย็น สามารถทำที่ประคบร้อนได้ด้วยตนเอง โดยการใช้น้ำอุ่นกรอกใส่ขวดพลาสติกที่ทนความร้อนปิดฝา แล้วนำไปประคบ
บริเวณขอบรอบริมฝีปาก เมื่อความร้อนลดลงก็สามารถกรอกน้ำอุ่นเติมลงไปได้
3.คัทเติ้ลบัต,สำลีแผ่น,น้ำเกลือล้างแผล การเช็ดทำความสะอาดแผล ควรทำทุกครั้งหลังการทานอาหาร ตอนเช้า และ ก่อนเข้านอนโดยการใช้คัทเติ้ลบัต คอยเขี่ย เศษอาหารเล็กๆที่อาจติดตามไหมที่เย็บแผลไว้ และใช้สำลีแผ่นชุบน้ำเกลือเช็ดให้ทั่วรอบๆแผล และบริเวณที่แผลแห้งแล้ว จากนั้นตามด้วยการใช้น้ำเกลือบ้วนปากให้สะอาด (การใช้นำเกลือแทนน้ำประปาจะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ)
4.ลิปบาล์มบำรุงริมฝีปาก,ยาลดรอยแผลเป็น,ลิปฆ่าเชื้อ และลิปเปลี่ยนสีปาก การดูแลริมฝีปากให้ชุ่มชื่นตลอดเวลาคือสิ่งที่จำเป็นมากในการทำศัลยกรรมปากบาง หากปล่อยให้ปากแห้งจะทำให้แผลตึง และเกิดอาการเจ็บ อาจมีเลือดไหลออกมาตามรอยปริของแผลแม้แผลจะแห้งแล้วก็ตาม
สำหรับใครที่กำลังศึกษาการทำศัลยกรรมปาก สนใจแนะนำส่งภาพมาประเมินเบื้องต้น
กับคุณหมอภูก่อนได้นะคะ ที่ หรือทาง inbox FB : http://bit.ly/32Z0RXB
หรือถ้าหากสะดวกและมีเวลาแนะนำเข้ามาปรึกษาปากกับคุณหมอได้โดยตรงที่คลินิกนะคะ
คุณหมอจะทำการตรวจเนื้อปากและโครงสร้างปากจริงของคนไข้และวาดสีปากให้คนไข้พิจารณาทรงก่อนค่ะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ทาง 087-555-6011, 0853629018
Line : http://nav.cx/8ITDQgO
เปิดรับสาย10.00-17.00 นะคะ
( ปิดทุกพุธ และพฤหัส )